บรรจุภัณฑ์เป็นมากกว่าภาชนะใส่สินค้า เพราะยังมีบทบาทในการรักษาคุณภาพสินค้า เพิ่มความน่าสนใจ และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า หนึ่งในวัสดุยอดนิยมคือ พลาสติก PP (Polypropylene) ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งด้านความปลอดภัยและความทนทาน แต่ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ในธุรกิจของคุณ ลองพิจารณา 4 ข้อสำคัญนี้ เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ที่สุด
1. รู้จักข้อดีของพลาสติก PP และความเหมาะสมกับสินค้า
พลาสติก PP เป็นวัสดุที่มีจุดเด่นคือ
- ทนความร้อน ใช้กับไมโครเวฟได้
- ทนความเย็น เหมาะกับสินค้าแช่เย็นหรือแช่แข็ง
- ไม่ดูดซับกลิ่น และไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร
- ปลอดภัยระดับ Food Grade
เหมาะกับสินค้าเช่น: อาหารพร้อมรับประทาน ขนมหวาน เครื่องดื่ม โยเกิร์ต ซอส น้ำพริก หรือเวชภัณฑ์บางประเภท
2. เลือกบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งาน
- รูปทรง ควรสอดคล้องกับการจัดเก็บ ขนส่ง และการหยิบใช้งาน
- ขนาด ต้องพอดีกับปริมาณสินค้า ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
- ฝาปิด ต้องแน่นหนา โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการซีลเพื่อเก็บความสด
- ความใสหรือขุ่น ขึ้นอยู่กับความต้องการโชว์สินค้า เช่น ของหวานควรใช้แบบใส
3. ต้นทุน VS ภาพลักษณ์แบรนด์
ธุรกิจควรพิจารณาให้รอบด้านว่า
- การใช้ PP ที่มีคุณภาพดี แม้ต้นทุนสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยสร้าง ภาพลักษณ์พรีเมียม ให้แบรนด์
- หากต้องการควบคุมต้นทุน ควรเลือกแบบมาตรฐานทั่วไป แต่ยังคง ผ่านมาตรฐาน Food Grade และดูดีพอสำหรับตลาดเป้าหมาย
4. ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
ไม่ว่าธุรกิจจะเล็กหรือใหญ่ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคถือเป็น ความรับผิดชอบขั้นพื้นฐาน
- ควรเลือกใช้พลาสติก PP ที่มีการรับรองมาตรฐาน เช่น FDA, ISO, HACCP หรือ อย.
- หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกรีไซเคิลที่ไม่ระบุแหล่งที่มา โดยเฉพาะกับอาหารและเครื่องดื่ม