“การตรวจสอบและรับรองคุณภาพบรรจุภัณฑ์พลาสติก PP” (พร้อมมาตรฐาน มอก. ที่เกี่ยวข้อง)
ทำไมต้องตรวจสอบคุณภาพบรรจุภัณฑ์ PP?
ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะประเภทที่ใช้กับอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความปลอดภัยและคุณภาพคือสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม พลาสติก PP (Polypropylene) แม้จะเป็นวัสดุยอดนิยม ก็ยังต้อง ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน ที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่า:
- ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
 - เหมาะสมกับการใช้งาน (ความร้อน ความเย็น ความดัน ฯลฯ)
 - สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและอุตสาหกรรม
 
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ PP
1. มาตรฐาน มอก. (ประเทศไทย)
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกไว้หลายฉบับ เช่น:
- 
                    รหัส มอก.รายละเอียด
 - 
                    มอก. 816-2556พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร – ความปลอดภัย
 - 
                    มอก. 1700-2548ผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลจากโพลิโพรพิลีน (PP)
 - 
                    มอก. 2921-2560ภาชนะบรรจุอาหารที่ใช้กับเตาไมโครเวฟ
 - 
                    มอก. 655-2552ข้อกำหนดทั่วไปของภาชนะพลาสติก
 - 
                    มอก. 2493-2564ภาชนะพลาสติกโพลิโพรพิลีนสำหรับสัมผัสอาหาร
 
2. มาตรฐานสากล
- 
                    มาตรฐานรายละเอียด
 - 
                    FDA (USA)ผ่านข้อกำหนด Food Contact Materials
 - 
                    EU Regulation 10/2011วัสดุสัมผัสอาหาร (Food Contact Plastics)
 - 
                    ISO 9001ระบบบริหารคุณภาพ
 - 
                    GMP / BRC Packagingระบบการผลิตที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร
 
ตัวอย่างการตรวจสอบคุณภาพ
- 
                    ขั้นตอนรายละเอียด
 - 
                    ตรวจสอบวัตถุดิบใช้เม็ดพลาสติก PP ที่มีใบรับรองคุณภาพ (COA)
 - 
                    ทดสอบ Migrationว่ามีสารเคมีปนเปื้อนหรือไม่ เมื่อสัมผัสกับอาหาร
 - 
                    ทดสอบทางกายภาพความหนา ความใส การรับแรง ความทนความร้อน
 - 
                    การสุ่มตรวจ (QC)ตรวจคุณภาพในทุกล็อตการผลิต
 - 
                    เอกสารรับรองเช่น Certificate of Conformity, Food Grade Certificate, ใบรับรอง มอก.
 
ใครบ้างที่ควรใส่ใจ?
- ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์:– เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและการรับรองจากลูกค้า
 - แบรนด์สินค้า:– เพื่อปกป้องผู้บริโภคและลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย
 - ผู้นำเข้า/ผู้ส่งออก:– เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของแต่ละประเทศ
 


